อบรมวิชาชีพ
rich@matichon.co.th
วิธีการค้นหาข้อมูล ใส่คำที่ต้องการค้นหาที่ ช่องว่างสีชมพู ด้านบน จากนั้นคลิกที่ ค้นหาข้อมูล ค่ะ
หมายเหตุ หากต้องการค้นจาก วันที่ สามารถพิมพ์ วัน/เดือน/ปี พ.ศ. เช่น 15/12/2545 หรือ เดือน/ปี พ.ศ. เช่น 12/2545
หากคำที่ต้องการค้นมีเว้นวรรค (space ) เช่น ชื่อ นามสุกล ให้เขียนเครื่องหมาย "%" แทนที่ว่าง ดังตัวอย่าง สุมิตรา จันทร์เงา ให้เขียนเป็น สุมิตรา%จันทร์เงา เป็นต้น |
วันที่ 01 พฤษภาคม พ.ศ. 2547 ปีที่ 10 ฉบับที่ 111 | รายงานพิเศษ10ช่างยอดฮิต อาชีพอิสระทำเงิน
สลักแก้วพ่นทราย รับงานได้หลากหลาย
การสลักแก้วและการพ่นทราย เป็นอีกหนึ่งอาชีพช่าง ที่สามารถทำเงินได้ดี ด้วยการลงทุนที่ไม่มาก และการเข้าสู่อาชีพนี้ก็ไม่ใช่เรื่องยาก ด้วยมีการฝึกอบรม สามารถทำได้ภายใน 1 วัน
การสลักแก้วคือ การขัดผิวแก้วในบริเวณที่ต้องการด้วยเครื่องยิงทรายเพื่อให้ได้แบบดีไซน์ที่ต้องการ การสลักแก้วมีหลายวิธี เช่น การกัดด้วยกรด การใช้เครื่องเลเซอร์และใช้เครื่องยิงทราย
ทรายในที่นี้หมายถึงวัสดุที่ใช้ในการยิง ที่นิยมมากคือ Aluminum Oxide และ Silicon Carbide ซึ่งมีประสิทธิภาพสูง และไม่มีอันตรายเหมือนทรายทะเล
การสลักนั้นกระทำได้โดยสร้างดีไซน์ ซึ่งจะเป็นสติ๊กเกอร์ บริเวณที่เปิดจะถูกทรายซึ่งยิงออกมาจากเครื่องด้วยแรงอัดสูง เมื่อทรายกระทบผิวแก้ว ก็จะกัดผิวแก้วออกเป็นฝุ่น ทำให้เกิดฝ้าขุ่นตามลวดลายที่ได้ออกแบบไว้ ส่วนบริเวณที่ถูกปิดอยู่นั้น ทรายจะเข้าไปไม่ถึงผิวแก้ว แก้วจะคงใสอยู่เหมือนเดิม
การสลักแก้วสามารถสลักผิวแก้วได้ทุกชนิด เช่น กระจกใส จาน แก้วน้ำ แก้วไวน์ กระจกเงา กรอบรูป และยังสามารถสลักวัสดุอื่น ๆ เช่น ไม้ หินอ่อน เซรามิก แกรนิต ฯลฯ
ในระยะหลังที่ผ่านมา สินค้าที่ไปได้สวยคือ โล่แก้วสลัก ซึ่งผู้เชี่ยวชาญในวงการนี้ บอกว่า การทำธุรกิจสลักโล่ ป้ายประกาศเกียรติคุณ ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง เพราะสื่อโทรทัศน์ได้แพร่ภาพผู้ได้รับรางวัลเป็นโล่แก้วสลักอยู่บ่อยครั้ง ประกอบกับโดยตัวของโล่แก้วสลักเองที่มีคุณค่า ภูมิฐาน และสวยงาม ใครเห็นก็อยากได้
ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา บรรดาบริษัทผลิตเบียร์ ได้นำเหยือกเบียร์หนา ๆ มาสลักโลโก้ของบริษัทออกจำหน่าย บริษัทไวน์ และแชมเปญก็นำแก้วมาสลักโลโก้ของบริษัทตนเองเช่นกัน กระทั่งสายการบินก็นำแก้วสลักโลโก้มาเสิร์ฟเครื่องดื่มให้ลูกค้า เหล่านี้ทำให้เกิดความนิยมในตลาดอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ ตามศูนย์การค้าทั่วไปในประเทศสหรัฐอเมริกาจะมีผู้ประกอบอาชีพสลักแก้ว ของที่ระลึก แก้วน้ำ แก้วไวน์ แก้วเบียร์ เพื่อเป็นของขวัญ ของที่ระลึก ซึ่งในแต่ละร้านก็รับงานกันไม่หวาดไม่ไหว
สำหรับในประเทศไทย ลูกค้าของธุรกิจสลักแก้วพ่นทรายมีตั้งแต่โรงแรมระดับห้าดาว วัดต่าง ๆ บริษัท ห้างร้าน และลูกค้ารายย่อยทั่วไป
ลักษณะงานที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย ได้แก่ พระบรมฉายาลักษณ์ของรัชกาลที่ 5 หลวงพ่อคูณ มาใส่กรอบรูป และสลักคำเทิดพระเกียรติ คำบูชา รวมทั้งป้ายชื่อบนโต๊ะทำงาน ไปจนถึงป้ายชาตะ มรณะ ที่นำไปไว้ที่วัด ฯลฯ
จะเห็นได้ว่าเป็นธุรกิจที่มีลักษณะงานหลายรูปแบบ สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้หลากหลาย อันเป็นอีกหนึ่งอาชีพช่างที่น่าจะสามารถทำเงินได้ดี
ปัญหาคือ จะเข้ามาสู่อาชีพนี้ได้อย่างไร
สำหรับผู้ที่มีใจรัก มีความมุ่งมั่น มีความตั้งใจจริงแล้วก็สามารถเดินหน้าต่อไปได้เลย
แต่ถ้าใครที่ยังลังเล ต้องกลับไปทบทวน จนกระทั่งแน่ใจเสียก่อน
การเข้าสู่อาชีพนี้ จะขอกล่าวถึง ใน 2 ส่วน คือเรื่องการลงทุน และการฝึกฝนอบรมหรือการเรียนรู้ในสาขาวิชานี้
เรื่องการลงทุน มีตั้งแต่งบประมาณการลงทุน เครื่องไม้เครื่องมืออุปกรณ์ ตลอดจนทำเลที่ตั้ง และการรับงาน
งบประมาณการลงทุน อยู่ที่ประมาณ 30,000-50,000 บาท
ส่วนวัสดุอุปกรณ์ที่สำคัญ ได้แก่ ทราย เครื่องปั๊มลม เครื่องยิงทราย เครื่องดูดฝุ่น และตู้ยิง
ทราย ที่ใช้ไม่ใช่ทรายที่อยู่ตามชายทะเล หรือทรายก่อสร้าง แต่วัสดุที่นิยมใช้กันคือ อะลูมินั่มออกไซด์และซิลิคอน คาร์ไบด์
ซิลิคอน คาร์ไบด์ มีคุณสมบัติแข็ง อะลูมินั่มออกไซด์ ทั้งสองตัวมีราคาพอ ๆ กัน และเป็นที่นิยมของผู้ประกอบการ
เครื่องปั๊มลม เป็นเครื่องจำเป็นที่จะต้องมี เพราะการยิงนั้น ใช้กำลังแรงอัดจากเครื่องปั๊มลมในการสลักแก้ว หากเป็นชิ้นงานขนาดเล็ก และทำจำนวนน้อย ก็ใช้เครื่องอัดขนาด 1.5-2 h.p.ก็พอ แต่ถ้าทำเป็นจำนวนมาก ควรจะลงทุนซื้อเครื่องปั๊มลมที่มีแรงม้าสูงคือ 3-5 h.p.
เครื่องยิงทราย ที่ใช้กันทั่วไปนั้น มีสองระบบคือ Siphon Blaster และ Pressure Blaster ทั้งสองระบบมีวิธีการทำงานที่ต่างกัน แต่ในที่นี้จะกล่าวคร่าว ๆ เพียงว่า ระบบแรกจะเหมาะกับงานอดิเรก ส่วนระบบหลังจะเหมาะกับการทำในลักษณะประกอบอาชีพ
ตู้ยิงทราย เป็นอุปกรณ์สำคัญ เพราะจะไม่ทำให้ฝุ่นฟุ้งกระจายออกไป เพราะจะมีเครื่องดูดฝุ่นอีกตัว ที่จะดูดทรายทิ้งไป ซึ่งตัวนี้อาจประกอบเองได้ โดยใช้พลาสติกและกาวเชื่อม ออกแบบให้มีที่สอดมือเข้าไปทำงานได้ และเจาะใส่ท่อดึงฝุ่นออกมาได้
สำหรับวัสดุอุปกรณ์การลงทุนทั้งหมดนั้น ตัวที่แพงสุดคือ เครื่องปั๊มลม ขนาดเล็กประมาณ 1 แรงม้า ราคาประมาณ 7,000-8,000 บาท มีจำหน่ายที่คลองถม หรือหากไปหาซื้อที่ร้านขายของเก่าจะได้ราคาถูกกว่า อย่างไรก็ตาม ถ้าจะให้ผู้เชี่ยวชาญแนะนำ เครื่องนี้ควรจะมีกำลังสักประมาณ 3 แรงม้า เพราะจะทำงานในปริมาณมาก ๆ ได้เร็วกว่า
ส่วนปืนยิงทราย มีราคาตั้งแต่ 1,000 บาท จนถึงหลายหมื่นบาท แต่หากต้องการทำงานละเอียด หรือได้งานที่ต้องการความประณีต ปืนยิงทรายคุณภาพดีจะทำงานได้ดีกว่า
ถ้ารวมตู้ยิงทรายด้วยแล้ว ทั้งหมดนี้น่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 30,000-50,000 บาท และนี่เป็นเงินลงทุนในช่วงเริ่มต้น ถ้าต้องการอุปกรณ์ที่มีกำลังแรงมากขึ้น เทคโนโลยีสูงขึ้น เงินลงทุนก็ย่อมต้องใช้มากขึ้น
ในขั้นตอนหนึ่งของการสลักแก้วด้วยเทคนิคพ่นทราย ต้องมีการถ่ายแบบลงบนกระดาษให้มีความคมชัด ขั้นตอนนี้ ใครที่เพิ่งเริ่มต้นอาจจะพึ่งร้านถ่ายเอกสารไปก่อน แต่ถ้าใครที่มีเงินทุนมากพอ จะใช้เทคโนโลยีที่สูงขึ้น สะดวกมากขึ้น ก็ซื้อเครื่องพริ้นเตอร์เลเซอร์ ซึ่งจะได้ภาพที่คมชัดกว่า
ในเรื่องทำเลที่ตั้งของร้านนั้น พิจารณาได้สองแบบคือแบบมีหน้าร้าน และแบบที่ไม่มีหน้าร้าน
แบบที่มีหน้าร้าน ทำเลในห้างสรรพสินค้าเป็นทำเลที่ดี เพราะมีที่จอดรถสะดวก มีลูกค้าแน่นอน แต่ราคาค่าเช่าอาจจะแพง แต่ถ้าใครที่มีหน้าร้านอยู่แล้ว อาจจะทำธุรกิจอื่น ๆ ด้วย ก็นำไปเป็นงานเสริมได้ ที่สำคัญคือควรเป็นทำเลที่มีคนผ่านไปมามาก และมีที่จอดรถสะดวก
อีกทำเลที่น่าจับตามองคือ ตามสถานที่ท่องเที่ยว เพราะสามารถทำชิ้นงานให้กับนักท่องเที่ยวได้ อาจจะเป็นการสลักชื่อนักท่องเที่ยว สลักชื่อสถานที่ หรือสัญลักษณ์ของสถานที่ท่องเที่ยวนั้นๆ ลงไป ทั้งนี้เป็นไปได้ว่า ถ้าร่วมประสานงานกับที่พักและโรงแรม ก็น่าจะได้งานที่มากกว่า
สำหรับแบบที่ไม่มีหน้าร้านนั้น ผู้ประกอบการต้องวิ่งหางานพอสมควร โดยไปตามงานแสดงสินค้า หรืองานรับปริญญา ที่จะได้กลุ่มลูกค้าโดยตรง หรือจะเป็นงานจากบริษัทต่าง ๆ ที่ต้องการทำสินค้าเป็นของขวัญแจกบรรดาลูกค้าในเทศกาลต่าง ๆ เป็นต้น
ส่วนที่สองคือ การเรียนรู้เกี่ยวกับอาชีพนี้ คาดว่าไม่อาจจะหาเรียนได้ทั่วไป แต่เป็นสาขาอาชีพหนึ่งที่ ศูนย์เทคโนโลยีอาชีพ มติชน บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) เปิดสอน สามารถเรียนรู้ได้ภายใน 1 วัน
ถามว่า ใน 1 วัน จะสามารถทำได้ ทำเป็นหรือ
การอบรมอาชีพใน 1 วัน จะสามารถเรียนรู้หลักการ ขั้นตอนการฝึกปฏิบัติทั้งหมด ตลอดจนการซักถามจากวิทยากรถึงลู่ทางการตลาด แหล่งซื้อวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ ราคาซื้อ ราคาขาย การรับงาน ฯลฯ ดังนั้น อยู่ที่ว่าจะสามารถเก็บเกี่ยวไปได้มากน้อยแค่ไหน
การฝึกอบรม การสลักแก้วพ่นทราย ทางศูนย์เทคโนโลยีอาชีพ มติชน เปิดอบรมเป็นระยะ ๆ โดยสามารถตรวจดูโปรแกรมการอบรมได้ที่นิตยสารเส้นทางเศรษฐี นิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้าน หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน หรือหนังสือพิมพ์ข่าวสด และ www.matichon.co.th
และข้อมูลทั้งหมดนี้ ได้มาจาก คุณสัญชัย สมบูรณ์สุข ผู้ประกอบการธุรกิจการสลักแก้วด้วยเทคนิคพ่นทราย และเป็นวิทยากรประจำศูนย์เทคโนโลยีอาชีพ มติชน ด้วย
หากต้องการติดต่อ คุณสัญชัย ติดต่อได้ที่ 117/125 ซอยชินเขต 2 งามวงศ์วาน หลักสี่ กทม. 10210 โทร. (02) 954-5201
พ่นทรายกระจก-หินอ่อน
อาชีพเสริมของหนุ่มเทศบาลนครศรีฯ
"ทำมา 5 ปี ถึงวันนี้ก็ยังไปได้"
สมเกียรติ พงศาปาน เป็นคนหนึ่งที่ยึดอาชีพพ่นทรายบนกระจกและหินอ่อนมานาน 4-5 ปีแล้ว จริง ๆ แล้วเขามีงานประจำ ในฐานะพนักงานเทศบาล จังหวัดนครศรีธรรมราช แต่ด้วยความที่เป็นคนมุมานะ หยุดนิ่งไม่ได้ จึงสร้างสรรค์อาชีพเสริมให้กับตัวเองอยู่เสมอ เขาทำมาแล้วหลายอาชีพ และที่ลงตัวที่สุด เห็นจะเป็นศิลปะกระจกพ่นทราย ที่กำลังทำอยู่ในวันนี้
มองอย่างไร กับอาชีพพ่นทราย ที่ทำในวันนี้?
หลังจากที่ผมมีอาชีพรับราชการมาได้ระยะเวลาหนึ่ง ผมก็พอที่จะทำนายอนาคตตัวเองได้ ถึงแม้อาชีพรับราชการให้ความมั่นคงในชีวิต แต่ในเมื่อเรามองไปข้างหน้าสู่อนาคต สิ่งที่ผมจะต้องรับผิดชอบมีมากมาย ขณะเดียวกันรายได้เกิดความไม่สมดุล ผมจะต้องนำมาคิดหาวิธีการเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับตัวเอง โดยคำนึงถึงเวลาว่างจากราชการบวกความรู้ความสามารถและประสบการณ์ที่พบเห็นมา จึงทำให้มีความคิดที่จะมีอาชีพเสริมหรืออาชีพอิสระ เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับตัวเอง จึงได้ตัดสินใจมาเรียนวิชาชีพจากศูนย์เทคโนโลยีอาชีพ มติชน
วิชาชีพที่ผมเลือกเรียนคือ การทำกระจกพ่นทราย มันเป็นงานศิลปะ เป็นการสร้างลวดลาย เติมสีสันบนกระจก ถึงแม้ไม่มีความจำเป็นกับคนบางกลุ่ม แต่คิดว่าคนทุกกลุ่มเกิดความอยากได้ เมื่อได้พบเห็นชิ้นงานลักษณะนี้
ระยะแรกที่ทำอาชีพนี้เป็นอย่างไร หาลูกค้ายากไหม?
แรก ๆ ที่ลงมาทำยุ่งยากพอสมควร เป็นงานที่ต้องมีความรู้เรื่องช่างเทคนิค ผสมกับความรู้เรื่องศิลปะ จะต้องมาประยุกต์เข้าด้วยกัน แต่ก็ใช้เวลาเรียนรู้ไม่นานนัก ทุกสิ่งทุกอย่างก็เข้าที่
สิ่งที่ยากที่สุด เห็นจะเป็นกลุ่มลูกค้า ที่เราจะต้องออกพบปะกับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายบ่อย ๆ เช่น วัดวาอารามต่าง ๆ ต้องเข้าไปพบเจ้าอาวาส ไปพูดคุยว่า มีใครจะทำป้ายฮวงซุ้ยบ้าง หรือไปติดต่อหน่วยงานราชการ ห้างร้านบริษัท ไปถามเขาว่ามีให้ทำป้ายอะไรบ้างหรือไม่
ต่อมาลูกค้าเริ่มรู้จักมากขึ้น งานจะเข้ามาในลักษณะปากต่อปาก และงานที่เข้ามาในระยะหลัง ๆ จะเป็นงานกระจกที่เป็นเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งภายใน คือกลุ่มลูกค้าจะขยายกว้างขึ้น เราจะขับรถตระเวนเพื่อหาลูกค้า โดยเฉพาะในจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง ผมไปมาทุกอำเภอ จังหวัดอื่น ๆ กระบี่ ตรัง สุราษฎร์ธานี ผมก็ไป
กลุ่มลูกค้า เป็นกลุ่มไหน เจาะตลาดอย่างไร?
กลุ่มลูกค้าคือ คนกำลังก่อสร้างบ้านใหม่ (ราคาประมาณ 700,000 ขึ้น) ผมจะเข้าไปนำเสนองาน โดยใช้ตัวอย่างกระจกซึ่งผมแกะลายนำไปเป็นตัวอย่าง นอกนั้นก็มีหนังสือแบบลวดลายซึ่งจัดทำเอง และอัลบั้มรูปให้ลูกค้าได้ดูโดยตรง ในส่วนลูกค้าซึ่งมีร้านค้าต่าง ๆ (ลูกค้าคนกลาง) เราก็จะนำเสนอแบบวิธีเดียวกัน เช่น ร้านขายวัสดุก่อสร้าง ร้านเฟอร์นิเจอร์ ร้านขาย-รับติดตั้งกระจกอะลูมิเนียม หรือช่างเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งภายใน ฯลฯ ร้านที่กล่าวมาจะจัดเอกสารหนังสือแบบลวดลาย และแนะนำวิธีคิดราคาไว้ให้เสร็จสรรพ พร้อมเสนอส่วนลด 10-20%
วิธีการเจาะตลาดดังกล่าวนี้ ได้รับผลตอบรับดีพอสมควร คือประมาณ 80% จะมีลูกค้าติดต่อกลับทางโทรศัพท์มาคุยกับผม บางรายก็จะมาคุยโดยตรง ส่วนมากจะมีปัญหาเรื่องการคิดราคา จะมีการเจรจาต่อรอง เพราะเป็นงานที่ค่อนข้างจะแพงหน่อย ลูกค้ามักจะติงในเรื่องนี้
อย่างไรก็ดี ส่วนใหญ่แล้ว ถ้าได้มีโอกาสพูดคุยกับลูกค้า เขาก็จะเข้าใจว่าชิ้นงานของเราไม่ได้ทำง่าย ๆ มีอัตราความเสี่ยงสูงพอสมควร และเป็นงานที่ต้องการโชว์ เป็นงานที่บ่งบอกถึงฐานะและรสนิยมของเจ้าของบ้าน เช่น บานตู้ กระจกโต๊ะ กระจกเครื่องแป้ง กระจกห้องน้ำ หรือแม้กระทั่งประตูบานเลื่อน ประตูบานสวิง ฯลฯ
นอกจากงานพวกตกแต่งภายในแล้ว ยังมีงานโล่รางวัล ที่เป็นพวกกระจก และอะครีลิก รูปแบบต่าง ๆ
มีหลักบริการลูกค้า ให้ประทับใจอย่างไร?
ลูกค้าสามารถเลือกแบบหรือออกแบบตามใจชอบ เรียกว่าเราทำตามแบบที่ลูกค้าต้องการได้ โดยเรามีช่างศิลป์ที่จะคอยออกแบบ หรือแนะนำลูกค้าได้
จะจัดส่งชิ้นงานให้ลูกค้าโดยตรง โดยไม่คิดค่าขนส่ง แต่จะต้องสั่งชิ้นงานราคา 5,000 บาท ขึ้นไป
โดยจะมีทีมช่างติดตั้งไว้คอยบริการ
ที่สำคัญที่สุด งานจะต้องออกมามีคุณภาพ ตรงใจลูกค้า และลูกค้าจะต้องได้รับชิ้นงานตรงเวลาตามนัด
คำแนะนำ เรื่องเงินลงทุน ถ้าจะเริ่มอาชีพตรงนี้?
จากประสบการณ์ของผม ถ้าคิดจะลงทุน ควรจะเริ่มจากน้อย ๆ ค่อยเป็นค่อยไป วัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ ซื้อตามความจำเป็นใช้งาน โดยแยกการลงทุนเป็น 2 แบบ
ชุดเล็ก เหมาะสำหรับงานชิ้นเล็ก ๆ เช่น โล่รางวัล ของชำร่วย ประมาณ 100,000 บาท
ชุดใหญ่ เหมาะสำหรับงานชิ้นใหญ่ ๆ เช่น งานเฟอร์นิเจอร์ ตกแต่งภายใน กระจกห้องน้ำ ประมาณ 300,000 บาท
ประมาณการค่าใช้จ่ายเงินลงทุน
รายการ ชุดเล็ก ชุดใหญ่
1. ที่ปั๊มลม 30,000 50,000
2. ทราย 5,000 10,000
3. อุปกรณ์ต่อพ่วง 10,000 10,000
4. ชุดดูดฝุ่น 5,000 5,000
5. ตู้พ่นทราย 10,000 25,000
6. โต๊ะวางชิ้นงาน (กระจก) 3,000 5,000
7. ยางดูดจับกระจก - 5,000
8. อื่น ๆ (อุปกรณ์เครื่องเขียน) 2,000 2,000
9. เงินหมุนเวียน 35,000 88,000
หมายเหตุ เฉพาะเงินลงทุน ไม่รวมโรงเรือน
กำไร-ขาดทุน เป็นอย่างไร?
ถ้าถามว่า จุดคุ้มทุน อยู่ตรงไหน กำไร-ขาดทุน เป็นอย่างไร อยากจะยกตัวอย่างให้เห็นดังนี้
(สมมติ) ขนาดกระจก 24 นิ้ว X 48 นิ้ว (8 ตารางฟุต) ถ้าเรานำกระจกขนาด 8 ตารางฟุต มาพ่นฝ้าทั้งแผ่น ราคาตารางฟุตละ 80 บาท = 640 บาท ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
ต้นทุน ความสิ้นเปลืองทราย ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำ ค่าแรง ค่าสึกหรออุปกรณ์อื่น ๆ รวม 100 บาท ยังคงเหลือกำไร 540 บาท
ขณะเดียวกัน ถ้าเรานำกระจกขนาด 8 ตารางฟุต มาแกะลายมุมดอกไม้ ทั้ง 4 มุม ราคาตารางฟุตละ 200 บาท = 1,600 บาท ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง
ต้นทุน ความสิ้นเปลืองทราย ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำ ค่าแรง ค่าสติ๊กเกอร์ ค่าสึกหรออุปกรณ์อื่น ๆ รวม 200 บาท ยังคงเหลือกำไร 1,400 บาท
มองอนาคต อาชีพพ่นทรายอย่างไร?
ผมมองว่า ทุกอาชีพมีคู่แข่ง โดยเฉพาะงานพ่นทราย ระยะหลัง ๆ มานี้ มีคนเข้ามาในอาชีพนี้มาก แต่ส่วนใหญ่ก็ทำไม่นาน ไม่ค่อยจริงจังเท่าไร
ผมจะไม่พะวงเรื่องคู่แข่งมากเท่าไร คิดอยู่แต่ว่าเราต้องทำงานให้เต็มที่ หาลูกค้ารายใหม่อยู่เรื่อยๆ ในขณะที่รายเก่าก็หาโอกาสพูดคุยสอบถามเขาบ้าง เผื่อเขามีลูกค้าแนะนำ เพราะส่วนใหญ่งานจะเข้ามาในลักษณะปากต่อปาก
มั่นใจว่ายังเป็นอาชีพที่ตลาดต้องการ แต่ก็ต้องปรับตัวอยู่ตลอด เน้นคุณภาพและรูปแบบงานให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า ก็จะไปได้
ต้องการปรึกษา หรือขอคำแนะนำ ทั้งการเข้าสู่อาชีพ และการใช้บริการ ติดต่อ โทร. (01) 970-9836
หน้า 20
|
แลกเปลี่ยนความรู้ - แสดงความคิดเห็นของท่านได้ที่นี่ |
|
|
[ 1 ] |
ความคิดเห็นที่ 1 : วันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ.2547 |
โดยคุณ จำนงค์ แก้วดี kjumnong@eng.psu.ac.th |
ไม่มีประสบการณ์ในด้านนี้เลย...แต่ต้องการเรียนรู้และหาประสบการณ์จนประกอบอาชีพได้ |
|
ความคิดเห็นที่ 2 : วันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ.2547 |
โดยคุณ ศ. |
ลงทุนไว้เยอะมาก แต่ตลาดของจังหวัดแย่งและตัดราคากันมาก โดยเฉพาะร้านขายส่งกระจก คิดว่าหากไม่สามารถเจาะ กลุ่มได้ ขอบอกว่าไปไม่รอด |
|
ความคิดเห็นที่ 3 : วันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ.2547 |
โดยคุณ แสวง |
ฟังดูแล้วก็เข้าท่าดีแต่เท่าที่เห็นการทำธุรกิจแบบนี้ก็ยังมีปัญหาอีกมากที่ยังไม่ได้นำมาเสนอในที่นี้ คง ไม่ง่านเหมือนที่คิด |
|
[ 1 ] |
| |